ใบงานที่4 ซอฟต์แวร์ระบบ
ซอฟต์แวร์ระบบบนเครื่องคอมพิวเตอร์
คือ ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นอย่างมีลำดับขั้นตอน เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย
จุดเด่นของระบบ
เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป บางครั้งเราอาจะเห็นระบบปฏิบัติการเป็นเฟิร์มแวร์ก็ได้ ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่หลัก ๆ คือ การจัดสรรทรัพยากรในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ ในเรื่องการรับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์ เช่น การส่งข้อมูลภาพไปแสดงผลที่จอภาพ การส่งข้อมูลไปเก็บหรืออ่านจากฮาร์ดดิสก์ การรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายการส่งสัญญานเสียงไปออกลำโพง หรือจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจำ ตามที่ซอฟต์แวร์ประยุกต์ร้องขอ รวมทั้งทำหน้าที่จัดสรรเวลาการใช้หน่วยประมวลผลกลาง ในกรณีที่อนุญาตให้รันซอฟต์แวร์ประยุกต์หลายๆ ตัวพร้อมๆ กันระบบปฏิบัติการ ช่วยให้ตัวซอฟต์แวร์ประยุกต์ ไม่ต้องจัดการเรื่องเหล่านั้นด้วยตนเอง เพียงแค่เรียกใช้บริการจากระบบปฏิบัติการก็พอ ทำให้พัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้ง่ายขึ้น
จุดด้อยของระบบ
การที่ผู้ใช้จะขอใช้บริการบนระบบยูนิกซ์ได้นั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลระบบหรือที่เรียกว่าซิสเตมแอดมินิสเตรเตอร์ (System Administrator) ก่อน หลังจานั้นผู้ใช้จะได้รับรายชื่อผู้ใช้หรือล๊อกอินเนม (login name) และรหัสผ่าน (password) มา แต่บางระบบ จะมีรายชื่ออิสระเพื่อให้ผู้ใช้ชั่วคราว โดยอาจมีล๊อกอินเนมเป็น guest,demo หรือ fieldซึ่งจะไม่ต้องใช้รหัสผ่าน การเข้าใช้ระบบเราเรีนกว่า ล๊อกอิน (login) โดยทั่วไปเมื่อระบบพร้อมที่จะให้บริการจะปรากฏข้อความว่า login:หรือข้อความใน ลักษณะที่คล้ายๆ กันรวมเรียกว่า พรอมต์ล๊อกอิน (Prompt log in)เมื่อปรากฏหรอมต์แล้วก็ให้พิมพ์ล๊อกอินเนมของ
- ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีทรัพยากรประสิทธิภาพสูง
- มีความยุ่งยากในการจัดการระบบมากกว่าระบบ DOS
1. แตะเลือกไอคอน แอพพลิเคชั่น (Applications) > จากนั้นแตะเลือกไอคอน การตั้งค่า (Settings) > แตะเมนู Application manager
คือ ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นอย่างมีลำดับขั้นตอน เพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เราก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย
จุดเด่นของระบบ
เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป บางครั้งเราอาจะเห็นระบบปฏิบัติการเป็นเฟิร์มแวร์ก็ได้ ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่หลัก ๆ คือ การจัดสรรทรัพยากรในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ ในเรื่องการรับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์ เช่น การส่งข้อมูลภาพไปแสดงผลที่จอภาพ การส่งข้อมูลไปเก็บหรืออ่านจากฮาร์ดดิสก์ การรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายการส่งสัญญานเสียงไปออกลำโพง หรือจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจำ ตามที่ซอฟต์แวร์ประยุกต์ร้องขอ รวมทั้งทำหน้าที่จัดสรรเวลาการใช้หน่วยประมวลผลกลาง ในกรณีที่อนุญาตให้รันซอฟต์แวร์ประยุกต์หลายๆ ตัวพร้อมๆ กันระบบปฏิบัติการ ช่วยให้ตัวซอฟต์แวร์ประยุกต์ ไม่ต้องจัดการเรื่องเหล่านั้นด้วยตนเอง เพียงแค่เรียกใช้บริการจากระบบปฏิบัติการก็พอ ทำให้พัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้ง่ายขึ้น
จุดด้อยของระบบ
1ต้องปรับตัวให้เข้ากับโปรแกรม ต้องมีการเปลี่ยนกระบวนการทำงาน2
2. ERP เกี่ยวข้องกับแทบทุกหน่วยงานในองค์กร ใช้เวลาในการ Implement นาน จึงต้องทำความเข้าใจกับพนักงาน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดการต่อต้านการใช้โปรแกรม ERP ได้ เพราะในช่วง Implement อาจต้องทำงานทั้งงานเดิม และป้อนข้อมูลใส่โปรแกรม ERP จึงทำให้มีการทำงานเพิ่มขึ้นจากเดิม
3. โปรแกรม ERP มีความซับซ้อน พนักงานที่ป้อนข้อมูลไม่ค่อยเอาใจใส่ ป้อนข้อมูลผิดพลาด แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็จะผิดต่อๆ กัน เพราะ ERP จะไม่ป้อนข้อมูลซ้ำๆ กัน เมื่อต้นทางป้อนข้อมูลไปผิด ผู้รับปลายทางจะได้รับข้อมูลที่ผิดไปด้วย
4. ERP บางตัวมีขนาดใหญ่มาก ถูกทำมาเพื่อกลุ่มอุตสาหกรรมอาจจะไม่เหมาะกับโรงงานเล็กๆ บางตัวเป็นแนวบัญชี ไม่เหมาะสมกับงานอุตสาหกรรม ดังนั้นต้องเลือกดีๆ
5. โปรแกรมมีราคาแพง (ไม่มีโปรแกรม ERP ราคา 5,000 – 6,000 บาท)
6. ต้องปรับตัวเข้าหาโปรแกรม การปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อให้เข้ากับโรงงานเป็นเรื่องยาก แพง และโปรแกรมบางยี่ห้อไม่ยอมทำ เป็นอันว่าเราต้องปรับตัวเข้าหาโปรแกรม หมายถึงอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าปรับไปแล้วจะดีหรือไม่ดี ตรงนี้เจ้าของบริษัทต้องมาตัดสินใจ
7. ERP จะต้องเกี่ยวข้องกับแทบทุกหน่วยงานในองค์กร และใช้เวลาในการ Implement นาน อาจใช้เวลา 1-2 ปี ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับพนักงาน ไม่อย่างนั้นพนักงานอาจต่อต้านการใช้โปรแกรม ERP ได้ เพราะในช่วงการ Implement อาจต้องทำแบบคู่ขนานคือ ต้องป้อนข้อมูลใส่โปรแกรม ERP และยังต้องทำงานเหมือนเดิมอีก นั่นคือมีการทำเพิ่มขึ้น (เงินเดือนเท่าเดิม) หรือพนักงานบางคนอาจกลัวว่ามีโปรแกรมมาช่วยงานแล้ว ต่อไปอาจจะไล่พนักงานออก
8. โปรแกรม ERP ค่อนข้างซับซ้อน ถ้าพนักงานที่ป้อนข้อมูลไม่ค่อยเอาใจใส่ อาจป้อนข้อมูลผิดพลาด แล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็จะผิดต่อ ๆ กันไปเป็นลูกโซ่ เพราะ ERP จะไม่ป้อนข้อมูลซ้ำ ๆ กัน เมื่อต้นทางป้อนผิด ระหว่างทางที่รับข้อมูลไปใช้ก็ผิด ไปถึงปลายทางก็ผิด โปรแกรม ERP ก็ไม่มีประโยชน์
9. ERP บางตัวใหญ่มากทำมาเพื่อทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อาจไม่เหมาะกับโรงงานของเรา หรือบางตัวออกไปในแนวบัญชี ไม่เหมาะกับโรงงานที่เน้นอุตสาหกรรมการผลิตแบบโรงงานเรา ต้องเลือกดี ๆ ไม่งั้นเสียเงินฟรี ใช้ไม่คุ้ม หรืออาจใช้ไม่ได้เลยต้องโยนทิ้งไปก็มีเยอะ
เลือกใช้ระบบการใช้งานระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)
เพราะระบบปฏิบัติการ UNIX มีการใช้อย่างกว้างขวางในผลิตภัณฑ์ เวิร์กสเตชั่น ของ Sun Microsystems, Silicon Graphics, IBM และบริษัทอื่น ๆ สภาพแวดล้อมของ UNIX และแบบจำลองโปรแกรม Client/Server เป็นส่วนประกอบสำคัญในการพัฒนาอินเตอร์เน็ต และเปลี่ยนการประมวลผลแบบศูนย์กลางในเครือข่ายมากกว่าคอมพิวเตอร์อิสระ Linux เป็นอนุพันธ์ของ UNIX ที่มีทั้งเวอร์ชันฟรีและพาณิชย์ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะตัวเลือกของระบบปฏิบัติการ
ตัวอย่างซอฟต์แวร์
ระบบปฏิบัติการ UNIX
ยูนิกซ์จัดอยู่ในกลุ่มระบบปฏิบัติการ (OS) แบบ mutitasking หรือ multiuser ซึ่งถือกำเนิดที่สถาบัน Bell Labs วัตถุประสงค์หลักที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็น platform สำหรับการเขียน software เพื่อใช้รันในระบบอื่นๆ แต่ละก็มีการขยายขอบเขตออกไปจนในที่สุดกลายเป็นระบบปฏิบัติการ ซึ่งลักษณะของ unix คือใช้งานด้วย text และเก็บข้อมูลเป็นลำดับชั้น มีเครื่องมือ command ให้ใช้งานมากมาย และสามารถ ทำงานรวมกันโดยใช้ pipe (|) เป็นตัวเชื่อมระบบของ Unix ถูกบริหารจัดการภายใต้โปรแกรมหลักคือ Kernel เพื่อใช้ในการ start/stop โปรแกรมอื่นๆ และใช้ในการจัดการ file system ในระดับล่าง อีกทั้งยังคอยจัดการ resource ที่มีอยู่ให้ program อื่นๆใช้งานได้โดยไม่ชนกัน
ประเภทของ Shell Unix
1. Bourne shell
Bourne shell (sh) เรียกชื่อถามคนสร้าง “Stephen Bourne” โดยปกติแล้วชื่อ program จะเป็น “sh” อยู่ที่ path “/bin/sh” ซึ่งมีการพัฒนาต่อยอดออกมาอีกหลายชนิดเช่น
- Almquist shell (ash)
- Bourne-Again shell (bash)
- Debian Almquist shell (dash)
- Korn shell (ksh)
- MirBSD Korn shell (mksh)
- Z shell (zsh)
2. C Shell
C Shell (csh) เขียนขึ้นโดย “Bill Joy” อาศัยพื้นฐานจากรูปแบบของ C โดยสามารถรองรับ feature แบบ interactive มากมาย ในหลายๆระบบปัจจุบันอาจจะมีการ link ไปที่ TENEX C shell (tcsh) แทน ซึ่งมีการพัฒนาจาก csh ให้ดีขึ้น และ feature หลายอยากก็ถูกนำไปใช้ใน shell ประเภทอื่นๆด้วย
คุณสมบัติพิเศษของยูนิกซ์
คือ เรื่องของการรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รวมทั้งมีความสามารถสูงในด้านการติดต่อสื่อสารระยะไกลระหว่างคอมพิวเตอร์ทำให้ยูนิกซ์ถูกนำมาใช้เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเครือข่ายของโลกที่เรียกว่า อินเทอร์เน็ต ดังนั้นก่อนที่ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบยูนิกซ์ ได้จะต้องทำการพิมพ์ Login Name และ (Password)
การเข้าใช้งานยูนิกซ์
คำสั่งพื้นฐานในการจัดการเกี่ยวกับไฟล์ในยูนิกซ์
เป็นการแสดงชื่อไฟล์ที่มีอยู่ในไดเรกทอรี่ที่ระบุ ถ้าไม่ระบุจะแสดงสิ่งที่อยู่ในรากปัจจุบัน) โดยแสดงในรูป แบบที่มีมากกว่า 1 ชื่อต่อ 1 บรรทัด คล้ายกับคำสั่ง DIR/W ระบบปฏิบัติการดอสพารามิเตอร์บางส่วนของคำสั่งเป็น ดังนี้
a แสดงชื่อไฟล์ที่ซ่อนไว้
l แสดงรายชื่อแบบยาว
t เรียงลำดับไฟล์ตามลำดับเวลาที่มีการแก้ไขล่าสุด
C แสดงชื่อไฟล์มากกว่าหนึ่งชื่อในแต่ละบรรทัดแต่ถูกคั่นด้วย tab
F แสดงฃื่อรากตามด้วยเครื่องหมาย /และชื่อไฟล์ที่ทำงานได้ด้วยเครื่องหมาย *รายละเอียดของไฟล์
a แสดงชื่อไฟล์ที่ซ่อนไว้
l แสดงรายชื่อแบบยาว
t เรียงลำดับไฟล์ตามลำดับเวลาที่มีการแก้ไขล่าสุด
C แสดงชื่อไฟล์มากกว่าหนึ่งชื่อในแต่ละบรรทัดแต่ถูกคั่นด้วย tab
F แสดงฃื่อรากตามด้วยเครื่องหมาย /และชื่อไฟล์ที่ทำงานได้ด้วยเครื่องหมาย *รายละเอียดของไฟล์
$ pwd
คือคำสั่งที่ใช้เช็คว่าไดเรกทอรี่ปัจจุบันอยู่ที่ตำแหน่งใดแต่ก่อนที่เราจะมาดูรายละเอียดอื่นเรามารู้จักคำว่าไดเรกทอรี่ กันก่อนดีกว่า ไดเรกทอรี่(directory) เนื่องจากไฟล์โปรแกรม หรือข้อมูลต่าง ๆ มีเป็นจำนวนมากทำให้ยากต่อการค้นหาจึงต้องมี การจัดระบบหมวดหมู่ของไฟล์ เป็นไดเรกทอรี่โดยไดเรกทอรี่ก็เปรียบเสมือน กล่องใบหนึ่งโดยไดเรกทอรี่ราก (root directoty) ก็เปรียบเสมือนกล่องใบใหญ่ที่สุดซึ่งจะสามารถนำกล่องใบเล็กๆซ้อนเข้าไปและนำไฟล์ซึ่งเปรียบเสมือนหนังสือจัดเก็บเป็นหมวด หมู่ภายใน กล่องเล็กๆเหล่านั้น และภายในกล่องเล็กๆนั้นก็อาจจะมีกล่องและหนังสือที่เล็กกว่าอยู่ภายในอีกด้วยเหตุนี้ไฟล์จะถูกจัด ไว้เป็นหมวดหมู่ง่ายต่อการค้นหาทีนี้เมื่อเราต้องการจะหาหนังสือสักเล่มที่อยู่ภายในกล่องนั้นเราก็ต้องรู้ว่าหนังสือเล่มนั้นอยู่ในกล่อง ไหนและกล่องที่ใส่หนังสือนั้นอยู่ภายในกล่องอื่นๆอีกหรือไม่เราเรียกเส้นทางที่อยู่ของแต่ละไฟล์ว่า “พาท” (path)
$ cd [ชื่อพาท]
เป็นการเปลี่ยนไดเรกทอรี่ไป เป็นไดเรกทอรี่ที่ต้องการ โดยในการใช้คำสั่งนี้ต้องคามด้วยชื่อพาท เช่น เมื่อเราอยู่ในพาท /data1/home/cpc/muntana และเมื่อเช็คดูแล้วว่ามีไดเรกทอรี่ชื่อ mail จากนั้นพิมพ์ $ cd mail หมายความว่าเป็นการเข้าไปใน กล่องที่ชื่อ mail จากตำแหน่ง ปัจจุบัน เพราะฉนั้นตอนนี้เราจะอยู่ใน พาท /data1/home/cpc/muntana/mail ซึ่งวิธีที่กล่าวมาเป็น การอ้างอิงสัมพันธ์กับตำแหน่งปัจจุบันแต่เรามีอีกวิธีหนึ่งคือการอ้างอิงโดยตรง ทำได้โดยการพิมพ์
$ mkdir [ชื่อไดเรกทอรี่]
คือคำสั่งที่ใช้ในการสร้างไดเรกทอรี่ใหม่ขึ้น โดยอ้างอิงพาทเช่นเดียวกับคำสั่ง cd เช่น $ mkdir test แล้วใช้คำสั่ง ls เพื่อเช็คดูจะพบไดเรกทอรี่ ชื่อ test
$ rmdir [ชื่อไดเรกทอรี่]
คือการลบไดเรกทอรี่ที่มีอยู่แต่ไดเรกทอรี่ที่ลบจะต้องไม่มีไฟล์หรือไดเรกทอรี่ย่อยอยู่ภายในนั้น
$ rm [ชื่อไฟล์]
คือการลบไฟล์ที่อ้างถึง
$ cat [ชื่อไฟล์]
เป็นการแสดงข้อความในไฟล์ที่เป็นเท็กซ์ไฟล์ (Text Files : ไฟล์ตัวอักษร) แสดงบนจอภาพ
$ mv [ชื่อไฟล์ต้นทาง] [ชื่อไฟล์ปลายทาง]
คือการย้ายไฟล์ (move) จากพาทใดๆที่อ้างอิงถึงไปยังพาทปลายทาง เช่น ถ้าเรามีไฟล์ชื่อ dead.letterอยู่ที่โฮม ไดเรกทอรี่และ เราต้องการย้ายมันไปที่ไดเรกทอรี่ mail ซึ่งอยู่ภายในโฮมไดเรกทอรี่ของเราเอง ทำได้โดยสั่ง
$ mv /data1/home/cpc/muntana/temp /data1/home/cpc/muntana/mail
หรือ $ mv temp /home/cpc/muntana/mail
หรือ $ mv temp mail
หรือ $ mv temp ./mail
หรือ อาจจะอ้างแบบอื่นตามรูปแบบการอ้างอิงพาทก็ย่อมได้
$ mv /data1/home/cpc/muntana/temp /data1/home/cpc/muntana/mail
หรือ $ mv temp /home/cpc/muntana/mail
หรือ $ mv temp mail
หรือ $ mv temp ./mail
หรือ อาจจะอ้างแบบอื่นตามรูปแบบการอ้างอิงพาทก็ย่อมได้
$ more
เป็นการแสดงข้อความในไฟล์ทีละหน้าจอแล้วหยุดรอจนกว่าผู้ใช้จะกดคีย์ช่องว่าง (space bar)จึงจะแสดงข้อมูลหน้า ถัดไปหรือกด Enter เพื่อแสดงข้อมูลบรรทัดถัดไปทีละบรรทัด และในขณะที่อยู่ภายในคำสั่ง more จะมีคำสั่งย่อยอีก 2 คำสั่ง คือ
q ออกจากการทำงาน
h ขอให้แสดงข้อความช่วยเหลือ (help)
q ออกจากการทำงาน
h ขอให้แสดงข้อความช่วยเหลือ (help)
$ cp [ชื่อไฟล์ต้นฉบับ] [ชื่อไฟล์สำเนา]
เป็นคำสั่งคัดลอก (copy) ข้อมูลจากไฟล์หนึ่ง ไปยังปลายทางที่ต้องการโดยใช้การอ้างอิงพาทลักษณะเดียวกับคำสั่ง mv การอ้างอิงชื่อไฟล์นอกจากการพิมพ์ชื่อไฟล์เต็มๆ โดยตรงแล้วยังมีการอ้างอิงถึงชื่อไฟล์โดยใช้สัญลักษณ์พิเศษอีก 2 ตัว คือ “*” และ “?”
? ใช้อ้างอิงแทนตัวอักษร สัญลักษณ์พิเศษ หรือ ตัวเลขใดๆ 1 ตัวอักษร เช่นเมื่อเราจะอ้างอิงถึงไฟล์ unix ? หมายถึง ไฟล์ทุก ไฟล์ที่ชื่อขึ้นต้นด้วย unix และตามด้วยตัวอะไรก็ได้อีก 1 ตัว อาจจะเป็น unixa unixx unix_ หรือ unix1 เป็นต้น
* ใช้อ้างอิงแทนตัวอักษร สัญลักษณ์พิเศษ หรือ ตัวเลขใดๆ กี่ตัวอักษรก็ได้ เช่น เมื่อเรา อ้างอิงถึงไฟล์ unix* จะหมายถึง ไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย unix โดยจะต่อท้ายด้วยตัวอะไรก็ได้กี่ตัวก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็น unix_tue unix1234 เป็นต้น
เราสามารถนำการอ้างอิงชื่อไฟล์ข้างต้นไปใช้กับคำสั่ง ls mv cp rm ได้ เช่น
ls -al .p* หมายถึง การขอดูรายชื่อไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย .p (คือเป็นไฟล์ซ่อนที่ขึ้นต้นด้วย p )
cp .pine_debug? . /mail หมายถึง การคัดลอกไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย .pine_debug และตามด้วยตัวอักษรใดๆ 1 ตัว ไปยังไดเรกทอรี่ mail
? ใช้อ้างอิงแทนตัวอักษร สัญลักษณ์พิเศษ หรือ ตัวเลขใดๆ 1 ตัวอักษร เช่นเมื่อเราจะอ้างอิงถึงไฟล์ unix ? หมายถึง ไฟล์ทุก ไฟล์ที่ชื่อขึ้นต้นด้วย unix และตามด้วยตัวอะไรก็ได้อีก 1 ตัว อาจจะเป็น unixa unixx unix_ หรือ unix1 เป็นต้น
* ใช้อ้างอิงแทนตัวอักษร สัญลักษณ์พิเศษ หรือ ตัวเลขใดๆ กี่ตัวอักษรก็ได้ เช่น เมื่อเรา อ้างอิงถึงไฟล์ unix* จะหมายถึง ไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย unix โดยจะต่อท้ายด้วยตัวอะไรก็ได้กี่ตัวก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็น unix_tue unix1234 เป็นต้น
เราสามารถนำการอ้างอิงชื่อไฟล์ข้างต้นไปใช้กับคำสั่ง ls mv cp rm ได้ เช่น
ls -al .p* หมายถึง การขอดูรายชื่อไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย .p (คือเป็นไฟล์ซ่อนที่ขึ้นต้นด้วย p )
cp .pine_debug? . /mail หมายถึง การคัดลอกไฟล์ทุกไฟล์ที่ขึ้นต้นด้วย .pine_debug และตามด้วยตัวอักษรใดๆ 1 ตัว ไปยังไดเรกทอรี่ mail
จุดเด่นของยูนิกซ์
มัลติทาสกิ้ง (Multi-tasking) คือ ทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการรอ โดยแบ่งการทำงานออกเป็น Foreground และ Background
- มัลติยูสเซอร์ (Multi-user) Unix สามารถรองรับผู้ใช้ได้มากกว่า 1 คนในเวลาเดียวกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ใช้งานได้หลายคนพร้อมกันนั่นเอง
จากจุดเด่นนี้ทำให้พบว่าในปัจจุบันเรานิยมใช้ Unix เป็นระบบปฏิบัติการของเครื่อง Internet Server กันมาก
จากจุดเด่นนี้ทำให้พบว่าในปัจจุบันเรานิยมใช้ Unix เป็นระบบปฏิบัติการของเครื่อง Internet Server กันมาก
จุดด้อยของระบบ
- โปรแกรมประยุกต์มีต้องมีขนาดเล็กใช้หน่วยความจำไม่เกิน 640 KB.- เป็นระบบงานเดียว (Single Tasking)- ติดต่อกับผู้ใช้ด้วยตัวอักษรบนCommand Line- ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีทรัพยากรประสิทธิภาพสูง
- มีความยุ่งยากในการจัดการระบบมากกว่าระบบ DOS
ซอฟ์ตแวร์ระบบอุปกรณ์บนสมารทโฟน

คือ ระบบปฏิบัติการบน Smartphone คือ ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป การจัดสรรทรัพยากรในสมาร์ทโฟน เพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ประยุกต์ ในเรื่องการรับส่งและจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดแวร์ เช่น การส่งข้อมูลภาพไปแสดงผลที่จอภาพ การส่งข้อมูลไปเก็บหรืออ่านจากหน่วยความจำ การรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่าย การส่งสัญญานเสียงไปออกลำโพง หรือจัดสรรพื้นที่ในหน่วยความจำ ตามที่ซอฟต์แวร์ประยุกต์ร้องขอ รวมทั้งทำหน้าที่จัดสรรเวลาการใช้หน่วยประมวลผลกลาง ในกรณีที่อนุญาตให้ซอฟต์แวร์ประยุกต์หลายๆ ตัวทำงานพร้อมๆ กัน โดยระบบปฏิบัติการหลักมีดังนี้
จุดเด่นของระบบ
เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับการตอบรับ และมีการพัฒนา Smartphone จำนวนมากให้รองรับการใช้งานอย่างแข็งขัน โดยเฉพาะจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่าง HTC, LG, Motorola, Samsung และ Sony Ericsson รวมถึงบริษัทผู้ผลิตอื่นๆ อีกจำนวนมาก ภายใต้การผลักดันของยักษ์ใหญ่อย่าง Google จนมีการคาดการณ์กันว่าภายใน พ.ศ. 2555 ระบบปฏิบัติการชนิด Open Source อย่าง Android จะครองตลาดเครื่อง Smartphone ทั่วโลกในสัดส่วนที่เหนือกว่า BlackBerry และ iPhone อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งนี้ก็ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการเปิดกว้างในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ตัวอย่างง่ายๆ เช่น Smartphone รุ่น Motoblur จากค่าย Motorola มีการพัฒนา Widget บนหน้าจอหลักให้สามารถรับข้อมูลอัพเดทใหม่ๆ จากแอปพลิเคชั่น social network ต่างๆ Android ยังมีลูกเล่นหลากสีสันบนบรรดาโทรศัพท์ Smartphone ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการจากเสียง (Voice Control) การจัดการอัลบั้มรูปภาพในลักษณะเลื่อนซ้อน การเข้าถึงบัญชีรายชื่อโทรศัพท์อย่างรวดเร็วและหลากรูปแบบ ไม่ว่าจะต้องการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ทาง SMS ทาง e-mail หรือผ่านทาง Facebook รวมถึงการนำทางโดยใช้โปรแกรม Google Maps ร่วมกับระบบชี้พิกัด GPS ที่ฝังอยู่ในตัวเครื่อง ทั้งนี้ไม่นับถึงแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่มีผู้คนทั่วโลกร่วมกันคิดค้นอีกมากมาย ซึ่งจะปรากฏขึ้นอีกในอนาคต
จุดด้อยของระบบ
1. เนื่องจากเป็นน้องใหม่ในตลาด โปรแกรมที่จะใช้ได้กับระบบยังไม่เยอะ การพัฒนาอาจจะล่าช้ากว่า commercial software เมื่อระบบพัฒนาถึงจุดๆหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผู้ใช เนื่องจากผู้ใช้คงไม่ได้อัพเกรดระบบซักเท่าไหร่นัก
2. Process : เราไม่สามารถปิด Process เองได้ ถ้าเปิดโปรแกรมอะไรขึ้นมามันจะรันอยู่อย่างนั้นตลอดซึ่งจะทำให้เครื่องช้าลงเรื่อยๆ ต้องมาลงโปรแกรม Task Manager คอยปิดProcess ทำให้ยุ่งยากมากขึ้น
3. เมื่อเทียบกับ Window Mobile ในแง่ความแพร่หลายของโปรแกรม, การใช้งาน GPS และการใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่เป็น Windows แล้ว Android ยังสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งการใช้งานร่วมกับภาษาไทยยังไม่รู้ว่าจะทำได้ดีขนาดไหนอีกด้วย
4.ต้องต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาถึงจะใช้แอฟพลิเคชั่นได้เต็มที่
ตัวอย่างที่เลือกใช้ระบบคือ Android
คือ ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์ (อังกฤษ: Android Inc.) จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยกูเกิล และนำแอนดรอยด์ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Alliance[2] ทางกูเกิลได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆ ด้วยภาษาจาวา และควบคุมอุปกรณ์ผ่านทางชุด Java libraries ที่กูเกิลพัฒนาขึ้น โดยแอนดรอยด์ (Android) ถูกตั้งชื่อเลียนแบบหุ่นยนต์ในเรื่อง สตาร์วอร์ส ที่ชื่อดรอยด์ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบมนุษย์เป็นซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการที่มีโครงสร้างแบบเรียงทับซ้อนหรือแบบสแต็ก (Stack) โดยใช้ลินุกซ์ เคอร์เนล(Linux Kernel) เป็นพื้นฐานของระบบ และใช้ภาษา Java ในการพัฒนา มี Android SDK เป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ อีกทีหนึ่ง โดยระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ เริ่มพัฒนาเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยบริษัทแอนดรอย์ดร่วมกับ Google จากั้นเมื่อปี พ.ศ.2550 ได้มีการร่วมมือกันกว่า 30 บริษัทชั้นนำเพื่อพัฒนาระบบ
ประเภทของชุดซอฟท์แวร์
เนื่องจากแอนดรอยด์ (Android) เปิดให้นักพัฒนาเข้าไปชมรหัสต้นฉบับได้ทำให้มีผู้พัฒนาจากหลายฝ่ายนำเอารหัสต้นฉบับมาปรับแต่ง และสร้างแอนดรอยด์ในแบบฉบับของตนเองขึ้นสามารถแบ่งประเภทของแอนดรอยด์ออกได้เป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. Android Open SourceProject (AOSP) เป็นแอนดรอยด์ประเภทแรกที่กูเกิล (Google) เปิดให้สามารถนำต้นฉบับแบบเปิด ไปติดตั้งและใช้งานในอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
2. Open Handset Mobile (OHM) เป็นแอนดรอยด์ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับกลุ่มบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์พกพา ที่เข้าร่วมกับกูเกิลในนาม Open Handset Alliances (OHA) บริษัทเหล่านี้จะพัฒนาแอนดรอยด์ในแบบฉบับของตนออกมา โดยรูปร่างหน้าตา การแสดงผล และพังก์ชั่นการใช้งาน จะมีความเป็นเอกลักษณ์ และมีลิขสิทธิ์เป็นของตน พร้อมได้รับสิทธิ์ในการมีบริการเสริมต่างๆ จากกูเกิล ที่เรียกว่า Google Mobile Service (GMS) ซึ่งเป็นบริการเสริมที่ทำให้แอนดรอยด์มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามจุดประสงค์ของแอนดรอยด์ แต่การจะได้มาซึ่ง GMS นั้น ผู้ผลิตจะต้องทำการทดสอบระบบ และขออนุญาตกับทางกูเกิลก่อน จึงจะนำเครื่องออกสู่ตลาดได้
3. Cooking หรือ Customize เป็นแอนดรอยด์ที่นักพัฒนานำเอารหัสต้นฉบับจากแหล่งต่างๆ มาปรับแต่งในแบบฉบับของตนเอง โดยจะต้องทำการปลดล็อคสิทธิ์การใช้งานอุปกรณ์ หรือ Unlock เครื่องก่อนจึงจะสามารถติดตั้งได้ แอนดรอยด์ประเภทนี้ถือเป็นประเภทที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่อุปกรณ์เครื่องนั้นๆ จะรองรับได้เนื่องจากได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับอุปกรณ์นั้นๆ จากผู้ใช้งานจริง
การใช้งานระบบ
1. แตะเลือกไอคอน แอพพลิเคชั่น (Applications) > จากนั้นแตะเลือกไอคอน การตั้งค่า (Settings) > แตะเมนู Application manager
2. ในส่วนของ Application manager จากนั้นให้เลื่อนไปยังแท็บ Running เพื่อดูแอพพลิเคชั่นที่กำลังรันอยู่ในระบบ หากต้องการปิดแอพฯ ไหนให้แตะเลือกแอพฯ นั้น
3. เมื่อแตะเลือกแอพฯ ที่ต้องการปิดการใช้งานแล้ว ให้แตะปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานของแอพฯ
4. อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่คิดว่าขั้นตอนนี้ยุ่งยาก นั่นก็คือ การใช้แอพฯ ประเภท Task Killer หรือ Task Manager ที่มีความสามารถในการปิดแอพฯ ที่เปิดทำงานทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น แนะนำ 2 ตัวด้วยกัน คือ Active Apps Ads / Task Manager และ Advanced Task Killer ดาวน์โหลดฟรีทั้ง 2 ตัว
เพียงเท่านี้เราก็สามารถปิดแอพฯ ที่ไม่ต้องการ เพื่อเรียกหน่วยความจำกลับคืนมา ทำให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่า มีแอพพลิเคชั่นบางตัวที่ไม่สามารถปิดได้ เพราะมันจำเป็นต้องงานอยู่ตลอดเวลา เช่น แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับระบบโดยตรง
3. เมื่อแตะเลือกแอพฯ ที่ต้องการปิดการใช้งานแล้ว ให้แตะปุ่ม Stop เพื่อหยุดการทำงานของแอพฯ
4. อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่คิดว่าขั้นตอนนี้ยุ่งยาก นั่นก็คือ การใช้แอพฯ ประเภท Task Killer หรือ Task Manager ที่มีความสามารถในการปิดแอพฯ ที่เปิดทำงานทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น แนะนำ 2 ตัวด้วยกัน คือ Active Apps Ads / Task Manager และ Advanced Task Killer ดาวน์โหลดฟรีทั้ง 2 ตัว
เพียงเท่านี้เราก็สามารถปิดแอพฯ ที่ไม่ต้องการ เพื่อเรียกหน่วยความจำกลับคืนมา ทำให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่า มีแอพพลิเคชั่นบางตัวที่ไม่สามารถปิดได้ เพราะมันจำเป็นต้องงานอยู่ตลอดเวลา เช่น แอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับระบบโดยตรง
จุดเด่นของระบบ Andriod
1. ความเข้ากันได้ระหว่างมือถือกับระบบ : ด้วยความที่เป็น Open-Source ทำให้ค่ายมือถือสามารถหาทางออกร่วมกันในแง่ข้อกำหนดขั้นต่ำที่จะใช้ Android และด้วยความที่เป็น Open-Source จึงมีคนเริ่มดัดแปลงให้ใช้กับ Netbook ได้ด้วย
2. ราคา : Open-Source ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้ แถมยังเข้ากันได้กับตัวเครื่องเนื่องจากร่วมกันผลิต ดังนั้นต้นทุนผลิตจึงต่ำ และตัวแอนดรอยด์ (ไม่รวมราคาของเครื่องที่ใช้) ถูกกว่าos ของ iphone
3. เราสามารถพัฒนาเองโดยไม่ต้องส่งคืนไปให้ที่บริษัทแม่ในต่างประเทศ เหมือนเทคโนโลยีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นระบบเปิด จึงสามารถพัฒนาได้เอง ในส่วนของซอฟต์แวร์ภายในเครื่องนั้น 90% จากต่างประเทศและอีก 10% เป็นของคนไทย โดยใช้ platform android ที่สามารถพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างแทบไม่มีขีดจำกัด ตัวพัฒนาโปรแกรมในandroid(SDK) นั้นสามารถโหลดมาใช้ได้ฟรีๆ และไม่ได้มีข้อจำกัดเหมือน iphone ที่เวลาโอนถ่ายข้อมูลระหว่างโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์ต้องต่อสายและโอนข้อมูลผ่าน itune เท่านั้น
4. หากเทียบกับ iphone แล้ว Android เน้นในเรื่องการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบมากกว่า
5. สามารถใช้งานด้วยนิ้วได้สะดวกและลื่นไหล
6. สามารถทำงานได้เร็วกว่า windows mobile เร็วพอๆกับ iphone ในมาตรฐานราคา licences ที่เท่ากัน
ข้อเสียของระบบ Android
1. เนื่องจากเป็นน้องใหม่ในตลาด โปรแกรมที่จะใช้ได้กับระบบยังไม่เยอะ มีโปรแกรมเสริมให้เลือกน้อย การพัฒนาอาจจะล่าช้ากว่า commercial software เมื่อระบบพัฒนาถึงจุดๆหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผู้ใช้เนื่องจากผู้ใช้คงไม่ได้อัพเกรดระบบซักเท่าไหร่นัก
2. Process : เราไม่สามารถปิด Process เองได้ ถ้าเปิดโปรแกรมอะไรขึ้นมามันจะรันอยู่อย่างนั้นตลอดซึ่งจะทำให้เครื่องช้าลงเรื่อยๆ ต้องมาลงโปรแกรม Task Manager คอยปิดProcess ทำให้ยุ่งยากมากขึ้น
3. เมื่อเทียบกับ Window Mobile ในแง่ความแพร่หลายของโปรแกรม, การใช้งาน GPS และการใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่เป็น Windows แล้ว Android ยังสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งการใช้งานร่วมกับภาษาไทยยังไม่รู้ว่าจะทำได้ดีขนาดไหนอีกด้วย
4. ใช้งานยากเพราะเมนูซับซ้อน ต้องทำความเข้าใจก่อน
5. ต้องต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาจึงจะใช้ฟังก์ชันได้เต็มที่
การประยุกต์ใช้ในงาน
แอนดรอยด์มีแอปพลิเคชันที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อและดาวน์โหลดได้จากกูเกิล เพลย์ หรือ แอมะซอน แอปสโตร์ และสามารถที่จะดาวน์โหลดไฟล์ APK ได้จากเว็บไซต์ต่างๆแอปพลิเคชันจากเพลย์สโตร์อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด และ อัปเดต ได้จากกูเกิล และ นักพัฒนาที่พัฒนาแอปนั้นๆ รวมไปถึงความสามารถในการติดตั้งกับอุปกรณ์ที่สามารถเข้ากันได้กับแอปพลิเค ซึ่งนักพัฒนาอาจจำกัดด้วยเหตุผลทางด้านอุปกรณ์, ประเทศ หรือเหตุผลทางธุรกิจเมื่อซื้อแอปแล้วสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 15 นาที หลังจากการดาวน์โหลด และบางผู้ให้บริการจะเก็บเงินด้วยใบเสร็จจากการซื้อแอปบนกูเกิล เพลย์ ซึ่งจะคิดเงินเพิ่มเติมจากค่าใช้บริการรายเดือนปกติ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 แอปพลิเคชันสำหรับแอนดรอยด์มีมากถึง 675,000 แอป และมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากเพลย์สโตร์ทั้งหมด 2.5 พันล้านครั้ง
แอปพลิเคชันจะเขียนโดยใช้ภาษาจาวา และใช้แอนดรอยด์ซอฟต์แวร์เดเวล็อปเมนต์คิต (Android software development kit) หรือ SDK โดยเอสดีเคจะประกอบด้วยชุดเครื่องมือต่างๆ นานาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน[รวมไปด้วยตัวรีบัก, แหล่งรวมซอฟต์แวร์ต่างๆ, ตัวจำลองแฮนด์เซต, โคดจำลอง และวิธีใช้ต่างๆ
ส่วนในประเทศจีนนั้น จะมีการจำกัดการใช้อินเทอร์เน็ตต่างๆ ของทางรัฐ โดยอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่วางขายในประเทศจีนนั้นจะถูกจำกัดบริการบางอย่าง และ จะมีเพียงแค่บริการที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลแล้วเท่านั้น
อ้างอิงมาจาก
http://www.w3ii.com/th/android/android_publishing_application.html
ใช้สำหรับการเรียนการสอนในรายวิชา การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำนักงาน
เพื่อสอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น